บรรจุภัณฑ์อาหาร นวัตกรรมจัดเก็บอาหารและการใช้งาน

          จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้บรรจุภัณฑ์อาหารเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่ทุกคนต้องพบเจอทุกวันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษาสินค้าอาหารต่าง ๆ การซื้ออาหารกลับบ้านหรือสั่งแบบเดลิเวอรี่ ดังนั้นจึงทำให้การพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารมีการผลิตเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของคนในสังคม ซึ่งทำความรู้จักกับ ผลิตภัณฑ์อาหาร มีอะไรบ้าง เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ได้ดีที่สุด ทั้งบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร

บรรจุภัณฑ์อาหารคืออะไร ?

บรรจุภัณฑ์อาหาร คือ วัสดุที่ใช้ในการห่อหุ้มอาหารโดยเฉพาะ โดยสามารถผลิตได้จากวัสดุหลากหลายชนิด เช่น พลาสติก, กระดาษ, แก้ว, โลหะ หรือไม้ ช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหาร และช่วยปกป้องอาหารจากการปนเปื้อนระหว่างการเคลื่อนย้ายหรือขนส่ง นอกจากนี้ยังสามารถทำการตลาดจากบรรจุภัณฑ์อาหารได้อีกด้วย

บรรจุภัณฑ์อาหารมีความสำคัญต่อธุรกิจและร้านค้าอย่างไร ?

บรรจุภัณฑ์อาหารไม่ใช่เพื่อการเก็บรักษา หรือช่วยเรื่องการขนส่งเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อธุรกิจ และร้านค้าอย่างมากเลยทีเดียว เพราะสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารได้อย่างชัดเจน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง เช่น การบอกข้อมูลเกี่ยวกับ

  วิธีการเก็บรักษาอาหาร

  วันหมดอายุ

  สารก่อภูมิแพ้

  ข้อมูลด้านโภชนาการต่างๆ

อีกทั้งยังช่วยสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่น่าจดจำมากกว่าเดิม เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วคนมักจะจดจำแบรนด์ได้จากรูปแบบบรรจุภัณฑ์อาหารหรือ package มากกว่าหน้าตาของอาหาร และคุณสามารถใช้จุดนี้เพิ่มมูลค่าของสินค้าให้กับธุรกิจได้อีกด้วย

รูปแบบบรรจุภัณฑ์อาหารเหมาะกับการใช้งานแบบใด ? 

การเลือกผลิตภัณฑ์อาหารควรใช้บรรจุภัณฑ์ลักษณะใด เนื่องจากรูปแบบการใช้งานของบรรจุภัณฑ์แต่ละประเภทนั้นมีความเหมาะสมกับอาหารหรือสินค้าด้านในที่ต่างกัน ดังนั้นเราจะมาอธิบายให้ทราบดังต่อไปนี้

  บรรจุภัณฑ์กระดาษใส่อาหาร

การใช้บรรจุภัณฑ์ (wait on page) กระดาษใส่อาหารได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถย่อยสลายได้ง่าย โดยมีการผลิตมาจากเส้นใยของพืชอัดแน่นให้เป็นกระดาษความหนา นิยมทำเป็นบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบของกล่อง, ถุง และกระป๋องกระดาษ เช่น กล่องใส่เบเกอรี่, กล่องบรรจุอาหารแห้ง, ถุงกระดาษ และกระป๋องขนมรูปทรงกระบอก เป็นต้น ซึ่งนอกจากบรรจุภัณฑ์รูปแบบกล่องและถุงยังมีกระดาษกันไขมันที่ใช้ห่ออาหารเป็นบรรจุภัณฑ์ได้อีกด้วย โดยข้อดีของบรรจุภัณฑ์กระดาษใส่อาหารก็คือ 

• มีน้ำหนักที่เบา
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• สามารถเขียนหรือพิมพ์ และปั๊มรูปกับตัวหนังสือได้ดี

แต่ถึงอย่างนั้นบรรจุภัณฑ์กระดาษยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความทนทานต่อความชื้นได้น้อยกว่าบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น และมีความสามารถในการป้องกันกลิ่น และไอน้ำเข้าสู่อาหารน้อยนั่นเอง

  บรรจุภัณฑ์แก้วใส่อาหาร

ภาชนะบรรจุอาหารที่นิยมบรรจุเครื่องดื่ม หรือเครื่องปรุงอาหาร สามารถกันความชื้น กันน้ำและอากาศได้ดี อีกทั้งยังมีข้อดีคือความโปร่งใสที่สามารถแต่งเติมสีให้เข้ากับผลิตภัณฑ์อาหารได้ตามต้องการ และสามารถทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนให้ปลอดเชื้อได้ แต่ข้อจำกัดของการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารแบบแก้วคือมีต้นทุนสูง และแตกหักได้ง่าย จึงต้องระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายหรือขนส่งอย่างดี

  บรรจุภัณฑ์โลหะใส่อาหาร

ปัจจุบันนี้โลหะเป็นที่นิยมในการบรรจุภัณฑ์อาหารอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องใส่อาหาร หรือเครื่องดื่มแบบกระป๋อง โดยมีความแข็งแรงทนทานสามารถขนส่งระยะไกลได้โดยไม่ต้องกลัวความเสียหายมากเท่ากับบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น และที่สำคัญคือสามารถเข้าสู่กระบวนการผลิตฆ่าเชื้อด้วยความร้อน และช่วยยืดการรักษาคุณภาพของอาหารได้ แต่ข้อจำกัดของการใช้วัสดุกระป๋องในการทำบรรจุภัณฑ์คือ เกิดการกัดกร่อนได้ง่าย ถ้าไม่ได้ผ่านการเคลือบโลหะด้วยแลคเกอร์ อีกทั้งยังเกิดการปนเปื้อนของโลหะหนักซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ถ้าหากไม่ระมัดระวังในการผลิตบรรจุภัณฑ์

  บรรจุภัณฑ์พลาสติกใส่อาหาร

บรรจุภัณฑ์อาหารจากพลาสติกเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันอันดับต้น ๆ ของบรรจุภัณฑ์อาหารทั้งหมด เพราะมีราคาที่ค่อนข้างต่ำ มีคุณสมบัติในการบรรจุอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้งหรืออาหารแบบน้ำ และเครื่องดื่ม เป็นต้น และยังสะดวกต่อการขนส่งเคลื่อนย้ายได้ดี แต่คุณจะต้องเลือกพลาสติกที่เหมาะสมกับอาหารชนิดนั้น ๆ เช่น

• พลาสติก PP ที่ใช้กับอาหารร้อนได้

• PS พลาสติกขึ้นรูปได้ง่ายนิยมทำมาเป็นกล่องใส่อาหาร

• บรรจุภัณฑ์ขวดนมเปรี้ยว 

โดยบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นมีข้อจำกัดการใช้งานคือถ้าเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีการเจือปนสารพิษต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งนั่นเอง

  บรรจุภัณฑ์โฟมใส่อาหาร

โฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีการผลิตจากก๊าซและพอลิเมอร์ นิยมนำมาทำบรรจุภัณฑ์ แบบกล่องโฟม ถ้วยโฟม

• ข้อดีคือมีน้ำหนักเบาและราคาถูก นิยมนำมาใช้ในการบรรจุอาหารสำหรับซื้อกลับบ้าน และแบบเดลิเวอรี่

• ข้อเสียคือหากโดนความร้อนจัดอย่างเช่น การเข้าไมโครเวฟจะทำให้สารสไตรีนไหลออกมาปนเปื้อน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพนั่นเอง 

  บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ

ในอดีตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการบรรจุอาหารนั้นมาจากธรรมชาติทั้งหมด ยกตัวอย่าง เช่น ประเทศไทยนิยมใช้ใบตอง และกะลามะพร้าว มาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ในการใส่อาหาร จนมาถึงในปัจจุบันนี้ได้นำวัสดุธรรมชาติมากมายมาแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ที่รักษ์โลก เช่น กล่องข้าวที่ผลิตมาจากชานอ้อย หรือ ใช้มันสัปปะหลังแปรรูปเป็นแผ่นฟิล์มใสในการห่ออาหาร จึงเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีจุดเด่นคือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่มีสารเคมีตกค้างต่อผู้บริโภค แต่อาจจะมีราคาที่สูงกว่าบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น และมีความทนทานที่น้อยกว่านั่นเอง

การใช้บรรจุภัณฑ์อาหารมีข้อดีอย่างไร ?

  ช่วยปกป้องอาหารจากการปนเปื้อน

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารแบบมีฝาปิดมิดชิดช่วยป้องกันการปนเปื้อนจากฝุ่นละออง สิ่งสกปรก สารเคมี ช่วยให้อาหารมีความปลอดภัยส่งผลดีต่อผู้บริโภคโดยตรง 

.  ยืดอายุการเก็บรักษาของอาหารได้

อาหารบางประเภทถ้าคุณเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารที่เหมาะสม จะช่วยยืดอายุของอาหารให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ลดการสูญเสียและช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจร้านค้าของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น  ถุงพลาสติกแบบสูญญากาศ ที่ช่วยชะลอการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรีย หรือกล่องใส่อาหารพลาสติกแบบมีฝาล็อค ช่วยป้องกันอากาศและความชื้น ที่จะส่งผลทำให้อาหารเสียง่าย

  สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์เพิ่มความน่าจดจำ

ประโยชน์ของบรรจุภัณฑ์ (wait on page) อาหารในด้านธุรกิจสามารถใช้สื่อสารข้อมูลของสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ โดยหลายคนอาจสงสัยว่าสื่อสารผ่านภาชนะใส่อาหาร มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์โลโก้ของแบรนด์ลงไปในบรรจุภัณฑ์ การบอกข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า เป็นต้น

 เลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารให้เหมาะสมควรพิจารณาจากอะไร ?

การบรรจุภัณฑ์อาหารแต่ละรูปแบบมีความเหมาะสมในการใช้งานไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณจะต้องพิจารณาปัจจัยการใช้งานเหล่านี้ให้ดี ซึ่งประกอบไปด้วย

• วิธีการขาย ขายหน้าร้าน ออนไลน์ หรือ เดลิเวอรี่

• ประเภทของอาหาร เช่น อาหารสด หรือ อาหารแปรรูป

• ต้นทุน ให้คุณคำนวณว่าราคาเหมาะสมกับประเภทอาหารหรือไม่

• กลุ่มลูกค้า เลือกให้เหมาะสมกับช่วงของวัย เน้นการใช้งาน และความสวยงาม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการบรรจุภัณฑ์อาหาร

Q: บรรจุภัณฑ์อาหารสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หรือไม่ ?

A: สามารถนำมาใช้ซ้ำได้บางประเภทเท่านั้น โดยประเภทที่นำมาใช้ซ้ำได้เพียงล้างให้สะอาดประกอบไปด้วยแก้ว, กระป๋อง, พลาสติก เป็นต้น แต่ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ควรนำมาใช้ซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษ , ภาชนะที่ทำมาจากโฟม เป็นต้น

Q: ประเภทของบรรจุภัณฑ์แบบใดที่นำมาอุ่นไมโครเวฟได้ ?

A: บรรจุบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกล่องกระดาษภัณฑ์ที่เหมาะสมในการอุ่นไมโครเวฟประกอบไปด้วย แก้ว, เซรามิก, พลาสติกที่ปราศจาก BPA และ Phthalates

          สรุปบรรจุภัณฑ์อาหารที่คุณควรรู้ข้อมูลทั้งหมดที่เราได้กล่าวถึงบรรจุภัณฑ์อาหารหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับใครที่กำลังหาข้อมูลได้เป็นอย่างดี และเชื่อมั่นว่าถ้าคุณเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับการใช้งาน จะส่งผลดีต่อร้านค้า และธุรกิจของคุณในทุกด้านอย่างแน่นอน หากสนใจเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารทุกประเภทจากแหล่งผลิตที่ปลอดภัย Propack Asia รับบรรจุสินค้า, รับบรรจุอาหารเสริม, รับบรรจุกระป๋องฝาดึง บริการคุณภาพ ในราคาเป็นมิตร